วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จักรวรรดินิยมใหม่ไม่ต้องใช้กำลังทหาร

 
ทความนี้เขียนขึ้นโดย คุณหมอกระเด็น

         สำหรับ เพื่อนๆวิดโครงการ ตอนนี้การเรียนวิชาสังคมก็คงกำลังถึงเนื้อหาในส่วนของลัทธิจักรวรรดินิยม แล้วนะครับ(เพราะผมไม่ค่อยได้ฟังตอนเรียนเท่าไหร่)ซึ่งวันนี้ผมจะนำเสนอ และวิเคราะห์ลัทธิดังกล่าว แต่เป็นในอีกรูปแบบหนึ่ง ลัทธนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในศตวรรษที่20 แต่เกิดที่นี่ ตอนนี้ ที่ประเทศไทยแห่งนี้นี่เอง

       ลัทธิจักรวรรดินิยม (ในภาษาอังกฤษ: Imperialism) คือนโยบายขยายอำนาจในการเข้าควบคุมหรือมีอำนาจบังคับบัญชาเหนือดินแดนต่าง ชาติ อันเป็นวิถีทางเพื่อการได้มาและ/หรือการรักษาจักรวรรดิให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ ทั้งจากการขยายอำนาจเข้ายึดครองดินแดน โดยตรง และจากการเข้าคุมอำนาจทางอ้อมในด้านการเมือง และ/หรือทางเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ บางคนใช้คำศัพท์นี้เพื่ออธิบายถึงนโยบายของประเทศใดประเทศหนึ่งในการคงไว้ ซึ่งอาณานิคม และอิทธิพลเหนือดินแดนอันไกลโพ้น โดยไม่คำนึงว่าประเทศนั้น ๆ จะเรียกตนเองว่าเป็นจักรวรรดิหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม มีการนำเอาคำว่า 'จักรวรรดินิยม' ไปใช้ในบริบทที่แสดงถึงความมีสติปัญญา/ความเจริญที่สูงกว่าด้วย ซึ่งในบริบทนี้คำว่า "จักรวรรดินิยม" มีนัยแสดงถึงความเชื่อที่ว่า การเข้าถือสิทธิยึดครองดินแดนต่างชาติและการคงอยู่ของจักรวรรดิเป็นสิ่งดี งาม เนื่องจากมีการประสมผสานรวมเอาหลักสมมุติฐานที่ว่า โดยธรรมชาติแล้วชาติมหาอำนาจจักรวรรดินิยมนั้นจะมีวัฒนธรรมและความเจริญด้าน อื่น ๆ เหนือกว่าชาติที่ถูกรุกรานเข้าไว้ด้วย
- อ้างอิงจาก สารานุกรมออนไลน์วิกิพีเดีย -


        ลัีทธิจักรวรรดินิยมในยุด1900นับได้ว่าส่งผลกระทบต่อโลกมากมาย ทั้งในเรื่องของการเมือง ศาสนา วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ
การเมืองก่อให้เกิดแนวคิดด้านการปกครองใหม่ เช่น เผด็จการนาซี เผด็จการฟาสซิสต์ และที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน คือ คอมมิวนิสต์
ศาสนา วัฒนธรรม และเชื้อชาติ จากผลของการยึดครองอาณานิคมของประเทศด้อยพัฒนา ดังจะเห็นได้ชัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อให้เกิดการผสมกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมตะวันตก และวัฒนธรรมพื้นเมือง ซึ่งจะคงส่งประทบจนถึงปัจจุบัน
ผลกระทบดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อชาติ และคนทั้งชาติที่เป็นเมืองขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่หากลัทธิดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

แต่!!!มันเกิดขึ้นอีก


แต่ในรูปแบบใหม่
ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร
ใช้เพียงข้อมูลข่าวสารซึ่งแพร่กระจาย และเดินทางไวยิ่งกว่าอากศยาน หรือนาวาใดๆในยุคโลกาภิวัฒน์นี้
แล้วกลืนกินชาติที่ถูกครอบงำให้มีวิถีชีวิต และความเชื่อแบบเดียวกับตนทีละเล็กละน้อย

จนหมดประเทศ

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ(ผมเชื่ออย่างนั้น)ของการถูกลัทธิจักรวรรดินิยมแนวใหม่กลืนกิน

ช่วงแรก อินเทอร์เน็ตกับจักรวรรดินิยมแนวใหม่


       ในช่วงทศวรรษที่1990 ปรากฏการณ์การแพร่กระจายของอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็วยิ่งกว่าปรากฏการณ์ใดๆในโลกที่เคยเกิด บางปีมันขยายเครือข่ายเกือบ 400เปอร์เซ็นในปีถัดๆไป การเติบโตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อทั้งโลก ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านสังคม โลกแคบลงมาก เราเคยใช้เวลา 2เดือนในการเดินทางจากไทยไปอังกฤษ เราเคยใช้เวลา 3เดือนจากไทยไปอเมริกาใต้ แต่ตอนนี้เราใช้เวลาไม่ถึงนาทีเพื่อที่จะดูว่า อีกซีกโลกหนึ่งนักบอลคนโปรดของเราทำประตูได้หรือไม่
นั้นย่อมส่งผลให้สังคมเกิดปัญญา และการเลือกสรรค์

เรารู้ว่าถ่านไฟฉายตรากบไม่ใช่ไฟฉายยี่ห้อเดียวที่มีในโลก
เรารู้ว่านักร้องชาวต่างชาติมีการเจริญทางด้านดนตรีมากกว่าไทยมากเท่าใด
เรารู้ว่าคนญี่ปุ่น และเกาหลีน่ารักเพียงใด
และ เราก็รู้ว่าชาติอื่นเจริญกว่าเรามากเท่าไหร่


       นั้นย่อมทำให้ปัญญาชนคาดหวังในความพึงพอใจสูงสุด นั้นคือการได้บริโภคสินค้านอก ที่ดี และมีคุณภาพมากกว่าของไทย
การนำเข้า และลงทุนจึงเกิดในภาคเอกชนจำนวนมาก สินค้านอกตีตลาดไทยมากมาย เช่น รถยนต์ เสื้อผ้า เทคโนโลยี

และสุดท้าย
วัฒนธรรม!!

ช่วงที่สอง การแพร่กระจายของสินค้า และวัฒนธรรมต่างชาติ

การแพร่กระจายของสินค้า และวัฒนธรรมต่างชาติดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่างๆมากมาย เช่น ประเทศไทยเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบทุนนิยมมากขึ้น จากความสะดวกสบายของสินค้าที่ผลิตออกมาจำนวนมาก สังคมเริ่มยอมรับเรื่องเพศ จากการรับวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น การขาดดุลการค้าที่ไทยต้องรับภาระจากการนำเข้า ฯลฯ
ในช่วงแรกผลกระทบยังเป็นเพียงรูปประธรรม ในรูปของวัตถุ และการจับจ่ายใช้สอย แต่เมื่อนานปีการตีตลาดของสินค้านอกกลับก่อให้เกิดผลกระทบที่น่าประหวั่น พลั่นพึงมากยิ่งขึ้น นั้นคือ"การกลืนกินวัฒนธรรม"
วัฒนธรรมการกินของคนไทยเปลี่ยนไปจากการเข้ามาของ แมคโดนัลด์ เคเอฟซี ฮะจิบัง ทำให้อาหารตามสั่งที่เคยเป็นอาหารผูกขาดของคนไทยต้องแบ่งพื้นที่การตลาดกับ ผู้นำเข้ารายใหม่
โชว์ห่วยไทยที่เคยมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงกลับซบเซา และต้องปิดกิจการจากการมาของห้างสรรพสินค้าชั่นนำของต่างชาติ เช่น โลตัส บิ๊กซี คาฟูร์
วัยรุ่นหญิงสมัยใหม่เมื่อใดที่ต้องมีกิจธุระจำเป็นต้องออกนอกเคหะสถาน ก็มิใช่เพียงใส่เครื่องแต่งกายออกไปเหมือนดังเช่นสมัยก่อน แต่ต้องแต่งหน้า ทาปาก เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจถูกประณามจากเพื่อนๆได้
       การแพร่กระจายของวัฒนธรรมนอกเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็วซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเกินกว่าจะยับยั้งแล้วหากยังปล่อยทิ้งไว้เช่น นี้
        ผุ้ที่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงต่อปัญหาดังกล่าว คือ รัฐบาล การเปิดเสรีให้แก่สื่อมวลชน และประชาชนจนมากเกินไป พร้อมกันนั้นยังส่งเสริมการลงทุนโดยไม่คิดแก่ปัญหา การล้มสลายของวัฒนธรรม ที่อาจเกิดขึ้นในเร็ววัน อาจทำให้จักรวรรดินิยมซึ่งมาในรูปแบบใหม่กลืนกินชาติไทยจากภายในจน...

ชาิติไทยหายไปในที่สุด


ช่วงปัจจุบัน จักรวรรดินิยม กับนักล่าอาณานิคมชาวเอเชีย


ปล.สำหรับช่วงสุดท้ายนี้ใครที่รู้ตัวว่าบ้าเกาหลี หรือรับไม่ได้ที่ประเทศเกาหลีถูกผมวิจารณ์ก็อย่าอ่านเลยนะครับ

        นับตั้งแต่ขึ้นสหัสศวรรษใหม่มา นับได้ว่าเป็นสหัสศวรรษของชาติในเอเชียก็ว่าได้ เพราะตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเหล่าชาติเอเชียถือได้ว่าโดเด่น และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม ส่งผลให้การส่งออกสินค้า และบริการของชาติดังกล่าวน่ากลัวเป้นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะส่งออกแต่ชาติในเอเชียเท่านั้น แต่การส่งออกไปยังชาติตะวันตกก็สูงมากเช่นกัน
นั้นนับเป็นสหัสวรรษแห่งการค้นหา และเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวเอเชียให้โลกรู้

ในที่นี้ผมขอกล่าวแต่ ประเทศไทย

         การเข้ามาตีตลาดของสินค้า และบริการของชาติเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนกับประเทศไทยเป็นอันดีบ 1 ส่งผลให้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแพร่ระบาดในประเทศไทยเป็ยอย่างมากในช่วงต้นสหัส วรรษ(ซึ่งผมขอข้ามละกันขี้เกียจพูดถึง)

แต่ที่กระผมคิดว่าประเทศไทยกำลังจะตกเป็นเมืองขึ้นจริงๆกลับไม่ใช่ ญี่ปุ่นที่เป็นตัวการ

แต่เป็น

เกาหลี

         การ ตีตลาดของชาติเกาหลีใต้นั้นเริ่มมีประปรายก่อนสหัสวรรษใหม่ โดยส่งมาเป็นรูปแบบของสื่อบันเทิง อาทิเช่น ซีรี่ละคร เพลง นักร้องบอยแบนด์ เป็นต้น ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ และเป็นผลดีต่อประเทศ
แต่ไม่ทราบว่า ณ จุดใดของประวัตศาสตร์ กระแสเกาหลีฟีเวอร์กลับขยายตัวอย่างรวดเร็ว และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
มันกลืนทุกอย่าง
ทั้งการแต่งตัว ทั้งความคิด ทั้งวัฒนธรรม

เคยคิดบ้างไหมว่าวันนึง ที่เพลงฮิตติดชา่ร์ตในช่องวิทยุที่เพลงไทยเคยเก็บทุกเพลง ตอนนี้เกาหลีกลับกินไปกว่าครึ่ง
เคยคิดบ้างไหมว่าวันนึง เพื่อนที่ชมว่าตัวเอง"หล่อเหมือนติ๊ก" แต่ตอนนี้กลับชมว่า"หล่อเหมือนเกาหลี"
เคยคิดบ้างไหมว่าวันนึง การศัลยกรรมที่เคยเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดกลับทำได้อย่างเปิดเผยในยุคที่เกาหลีครองเมือง

ผมอาจจะใส่ความคิดส่วนตัวในส่วนสุดท้ายลงไปมากซักหน่อย แต่ผมไม่ไหวจริงๆผมถึงเขียนบทความนี้ขึ้น
ผม เปิดช่องทีวี แล้วดูโฆษณาเครื่องสำอางค์ เืกือบทุกยี่ห้อ ใช้คำอวดสรรพคุณว่า หล่อเหมือนคนเกาหลี ผมเปิดดูรายการทีวี กลับพบว่ามีรายการที่นำเสนอข่าวคราวนักร้องเกาหลีมากกว่าแต่ก่อนมากมาย

ผมไม่ได้แอนตี้ หรือต่อต้าน แต่คิดว่าตอนนี้มันเกินไปแล้วแหละสำหรับการรับวัฒนธรรมเกาหลี

    บทความนี้อาจสายเกินไปสำหรับคำว่า หยุด และหันกลับมาดูตัวเอง ประเทศเค้าที่เรารับเอาความเจริญเข้ามา แต่ก่อนนั้นเคยใช้เราเป็นครู
แต่บัดนี้ไม่ใช่
รักชาติ รักประเทศไทย รักในหลวง และช่วยกันพัฒนาประเทศชาติเถอะครับ

ก่อนที่จะไม่มีชาติให้คุณรัก
เพราะต้องตกเป็นเมืองขึ้นของ

ลัทธิจักรวรรดินิยม

4 ความคิดเห็น:

  1. ก็เกาหลีเค้าฉลาดนี่นา

    แผนการตลาดโปรโมตประเทศเค้าก็เวิร์คอยู่หรอก

    ตอบลบ
  2. รักประเทศไทย
    มีสตินิดนึง

    ตอบลบ
  3. พวกหัวรุนเเรงเเล้วนะคุณ Piiruvate

    ตอบลบ
  4. Casino Resort in Phoenix - KTMH
    Casino Resort in Phoenix, Arizona. Hotel, Casino & Hotel · 전주 출장안마 Entertainment, 세종특별자치 출장안마 Gaming & More. 777 Casino Center Dr, Phoenix AZ 보령 출장안마 85239. Rating: 3.5 · 충주 출장마사지 ‎964 여주 출장안마 votes

    ตอบลบ